TOA | สมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย THE THAI ORTHOPAEDIC ASSOCIATION TOA | สมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย THE THAI ORTHOPAEDIC ASSOCIATION TOA | สมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย THE THAI ORTHOPAEDIC ASSOCIATION

Sidebar

  • หน้าหลัก
  • สำหรับประชาชน
  • เกี่ยวกับสมาคมฯ
    • ประวัติความเป็นมา
    • ข้อบังคับสมาคม
    • ภารกิจและวิสัยทัศน์
    • คณะกรรมการสมาคมฯ
    • สารจากนายกสมาคมฯ
    • สื่อประชาสัมพันธ์
  • สำหรับสมาชิก
    • ข่าวประชาสัมพันธ์
    • สื่อประชาสัมพันธ์
  • กิจกรรมสมาคม
  • ติดต่อสมาคม
    • ร่วมประกวดคำขวัญ
  • มูลนิธิ
    • ประวัติมูลนิธิฯ
    • คณะกรรมการมูลนิธิฯ
  • หน้าหลัก
  • สำหรับประชาชน
  • เกี่ยวกับสมาคมฯ
    • ประวัติความเป็นมา
    • ข้อบังคับสมาคม
    • ภารกิจและวิสัยทัศน์
    • คณะกรรมการสมาคมฯ
    • สารจากนายกสมาคมฯ
    • สื่อประชาสัมพันธ์
  • สำหรับสมาชิก
    • ข่าวประชาสัมพันธ์
    • สื่อประชาสัมพันธ์
  • กิจกรรมสมาคม
  • ติดต่อสมาคม
    • ร่วมประกวดคำขวัญ
  • มูลนิธิ
    • ประวัติมูลนิธิฯ
    • คณะกรรมการมูลนิธิฯ

อาการปวดหลังลักษณะใดต้องส่งตรวจภาพเอกซเรย์ เพื่อช่วยการวินิจฉัย?

อาการปวดหลังลักษณะใดต้องส่งตรวจภาพเอกซเรย์ เพื่อช่วยการวินิจฉัย?

พ.ท. ชัยศิริ ชัยชาญกุล
17 พฤษภาคม 2565
5671
Empty
  • พิมพ์

พ.ท. ชัยศิริ ชัยชาญกุล

กองออร์โธปิดิกส์ ร.พ. พระมงกุฏเกล้า

การส่งตรวจภาพเอกซเรย์เพื่อการวินิจฉัยพยาธิสภาพบริเวณกระดูกสันหลัง เป็นการปล่อยรังสีเอกซ์จากเครื่องกำเนิดรังสีไปยังแผ่นฟิล์มอีกด้าน โดยมีร่างกายส่วนที่ต้องการประเมินเป็นตัวคั่นกลาง ภาพที่ได้จะเป็นภาพขาวดำที่มีความเข้มของสีแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความสามารถในการดูดซับรังสีของอวัยวะต่าง ๆ เนื่องจากแคลเซียมที่เป็นองค์ประกอบหลักของกระดูกสามารถดูดกลืนรังสีได้ดี ภาพเอกซเรย์จึงมักให้ข้อมูลความผิดปกติของกระดูกที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบหลักได้ดี ภาพที่เกิดขึ้นจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความผิดปกติทางด้านโครงสร้างของกระดูก เช่น การหัก การยุบตัว หรือการเคลื่อนออกจากการแนวปกติของกระดูกสันหลัง เมื่อนำข้อมูลที่ได้จากอาการแสดง และ การตรวจร่างกายของแพทย์มาวิเคราะห์ร่วมกันกับภาพเอกซเรย์จะช่วยให้การวินิจฉัยโรคและหาสาเหตุของโรคได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ภาพเอกซเรย์ในแต่ละครั้งอาจเทียบเท่าได้กับปริมาณที่ร่างกายได้รับรังสีในธรรมชาติติดต่อกันประมาณ 10 วัน ดังนั้นในหญิงมีครรภ์ รังสีที่ได้รับอาจส่งผลกระทบให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ จึงควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อความปลอดภัย โดยส่วนใหญ่อาการปวดหลังจะหายได้เองและมากกว่าร้อยละ 90 หายได้โดยไม่ต้องให้การรักษาใด ๆ การส่งตรวจภาพรังสีเอกซเรย์จึงควรมีข้อบ่งชี้ที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังทั่วไป

ข้อบ่งชี้ที่ควรได้รับการส่งภาพรังสีเอกซเรย์ในผู้ป่วยทีมีอาการปวดหลัง

  1. ผู้ป่วยที่มีประวัติได้รับอุบัติเหตุรุนแรง (รูปที่ 1)
  2. อุบัติเหตุทั่วไปที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของกระดูกอยู่เดิม เช่น โรคกระดูกพรุน
  3. อาการปวดหลังในระยะเฉียบพลันร่วมกับการมีสัญญาณอันตราย (red flag signs) โดยสัญญาณอันตราย ได้แก่ น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ ไข้ (รูปที่ 2) เบื่ออาหาร เหงื่อออกกลางคืน หรือมีอาการปวดมากที่ไม่สัมพันธ์กับการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ปวดขณะนอนหลับ เป็นต้น ซึ่งอาการปวดหลังที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อและโรคมะเร็งถือเป็นหนึ่งในข้อบ่งชี้ที่สำคัญ ในการส่งภาพเอกซเรย์เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกของการดำเนินโรค
  4. ผู้ป่วยที่มีอาการแสดงทางระบบประสาทผิดปกติที่ประกอบไปด้วย อาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อหรือชาแขนขา ผู้ป่วยอาจกลั้นปัสสาวะ/อุจจาระไม่ได้ ถ่ายปัสสาวะ/อุจจาระโดยไม่รู้ตัว หรือมีอาการชาบริเวณอุ้งชิงกราน
  5. อาการปวดหลังอยู่เรื้อรังเกิน 6 สัปดาห์

 

ภาพเอกซเรย์เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวินิจฉัยได้ดี ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ และก่อให้เกิดผลข้างเคียงน้อยหากส่งด้วยความจำเป็นตามข้อบ่งชี้ นอกจากนี้การส่งเอกซเรย์อาจมีความจำเป็นในการแยกโรคที่ไม่มีความผิดปกติที่กระดูกสันหลังหลังโดยตรง แต่มีความฉุกเฉินในการรักษา เช่น มีความผิดปกติของเส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องหรือทรวงอก ผู้ป่วยกลุ่มนี้นอกเหนือจากอาการปวดหลังผู้ป่วยมักมีอาการหน้ามืด แน่นหน้าอก ปวดท้อง หรือหายใจลำบากร่วมด้วย

รูปที่ 1  แสดงภาพเอกซเรย์ทางด้านหน้าและด้านข้างในผู้ป่วยที่มีประวัติได้รับอุบัติเหตุตกจากที่สูง จากภาพพบความผิดปกติคือ กระดูกสันหลังส่วนเอวปล้องที่ 1 มีการหักยุบ (ลูกศรสีแดง)

รูปที่ 2 แสดงภาพเอกซเรย์ทางด้านหน้าและด้านข้างในผู้ป่วยที่มีประวัติ ปวดหลังเรื้อรังเป็นเวลานานร่วมกับมีไข้ และน้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ

VDO

บทความแนะนำ

  • ภาวะความดันในช่องกล้ามเนื้อสูง (compartment syndrome)
  • ก้อนเนื้องอกไขมัน (lipoma)
  • โรคเท้าปุก (Clubfoot)
  • เหล็กที่เคยผ่าตัดจะดังหรือไม่.....เมื่อผ่านเครื่องตรวจโลหะ
  • โรครองช้ำหรือพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ Plantar fasciitis
  • Osteochondroma หรือ Exostosis
  • กระดูกสันหลังหักยุบจากโรคกระดูกพรุน
  • 5 ประเด็นสำคัญในการรักษากระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ
  • อาการปวดหลังลักษณะใดต้องส่งตรวจภาพเอกซเรย์ เพื่อช่วยการวินิจฉัย?
  • ข้อเข่าเสื่อมและการดูแลรักษาในปัจจุบัน
  1. สำหรับประชาชน
  2. อาการปวดหลังลักษณะใดต้องส่งตรวจภาพเอกซเรย์ เพื่อช่วยการวินิจฉัย?

สมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย (The Thai Orthopaedic Association)

เลขที่ 2 ซอยศูนย์วิจัย ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระบารมี ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ โทรศัพท์ : 02-716-5436-7
ติดต่อสมาคม
Copyright © 2023 สมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย. All Rights Reserved. Develop by MP Graphichouse Co.,Ltd.